สาเหตุอาการอ่อนเพลีย นอนเต็มที่แต่ก็ยังรู้สึกอ่อนล้าเป็นประจำ
Rojjana Liaseaum Posted on 8:58 pm

สาเหตุอาการอ่อนเพลีย นอนเต็มที่แต่ก็ยังรู้สึกอ่อนล้าเป็นประจำ

เชื่อว่าหลายคนที่อยู่ในวัยทำงานและวัยเรียนช่วงปลายน่าจะเจอปัญหานี้กันเยอะมาก อาหารเพื่อสุขภาพ กับอาการอ่อนเพลียแบบไม่มีสาเหตุ ไม่ว่าวันนั้นจะเข้านอนเร็วแค่ไหนก็ไม่ทำให้รู้สึกสดชื่นมากขึ้น

พอเริ่มเข้าสู่ช่วงบ่ายก็เริ่มมีสัญญาณแห่งความอ่อนล้าให้เห็น บางคนหนักกว่านั้นเพราะเริ่มเพลียตั้งแต่ก่อนเที่ยงกันเลย อันที่จริงเรื่องนี้มันมี สาเหตุอาการอ่อนเพลีย มาจากพฤติกรรมและสภาพร่างกายของเราเอง ลองไปดูกันว่ามีปัจจัยใดบ้าง

สาเหตุอาการอ่อนเพลีย

สาเหตุอาการอ่อนเพลีย ที่หลายคนกำลังเผชิญอยู่

สาเหตุอาการอ่อนเพลีย สาเหตุแรกที่ส่งผลให้มีอาการอ่อนเพลีย ก็คือ น้ำหนักตัวมากเกินไปทำให้อ่อนเพลียง่าย คนที่ออกกำลังกายเป็นประจำจะเข้าใจความรู้สึกแบบนี้ดี วันไหนที่ไม่ได้ออกก็จะมีความรู้สึกอ่อนเพลียอยู่บ้าง แต่ในกรณีของคนอ้วนหรือคนที่มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน มันจะมีอาการมากกว่าคนที่หยุดออกกำลังกาย

เพราะมันเป็นความอ่อนล้าสะสมที่ไม่หมดไปโดยง่าย ถึงจะนอนดีมาตลอดทั้งคืนแล้ว หากได้อยู่ในพื้นที่ที่ค่อนข้างสบายก็สามารถหลับระหว่างวันได้อีก ทางแก้เดียวจึงเป็นการควบคุมน้ำหนักให้พอดี

สาเหตุอาการอ่อนเพลีย ที่หลายคนกำลังเผชิญอยู่

สาเหตุอาการอ่อนเพลีย สาเหตุต่อมาที่ส่งผลให้มีอาการอ่อนเพลีย ก็คือ ความเสื่อมสภาพของร่างกายทำให้อ่อนเพลีย ปัจจัยนี้เป็นเรื่องความเสื่อมตามวัย หลายคนพออายุมากขึ้นจะมีความหย่อนคล้ายของอวัยวะ บริเวณช่องคอก็หย่อนยานจนปิดช่องหายใจ เลยอ่อนเพลียเป็นประจำเพราะไม่เคยนอนอย่างมีประสิทธิภาพ

แม้ว่าเจ้าตัวจะรู้สึกว่าได้หลับยาวนาน แต่ระหว่างนั้นอาจเกิดช่วงที่หายใจไม่สะดวก หยุดหายใจชั่วขณะ รวมถึงนอนกรนจนไม่สามารถหลับลึกได้จริง ทางแก้คือการเข้าพบแพทย์เพื่อปรึกษาหาทางออก งานนี้ต้องพึ่งองค์ความรู้ในทางการแพทย์เท่านั้น

สาเหตุอาการอ่อนเพลีย เกิดจากความเสื่อมของร่างกาย

สาเหตุอาการอ่อนเพลีย สาเหตุสุดท้ายที่ส่งผลให้มีอาการอ่อนเพลีย ก็คือ กินอาหารดึกเกินไปเป็นต้นเหตุความอ่อนเพลีย เข้าใจดีว่าการกินมื้อดึกนั้นเป็นความสุขของหลายๆ คน แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าร่างกายของเรามีกลไกที่ทางธรรมชาติสร้างเอาไว้ มันจะต้องใช้เวลาย่อยมากกว่า 4 ชั่วโมง จึงทำให้นอนหลับไม่สนิท

ดังนั้นถ้าไม่อยากอ่อนเพลียระหว่างวัน ควรปรับช่วงเวลาอาหารเย็นให้เร็วขึ้นหน่อย หรือไม่ก็ต้องปรับเวลานอนให้เลื่อนออกไป เพราะเวลาที่เหมาะสมกับการนอนมากที่สุดก็คือเวลาที่กระเพาะของเราหยุดทำงานเรียบร้อยแล้ว