การปรับพฤติกรรมโรคอ้วน ปัญหาเรื่องสุขภาพอันดับหนึ่งของคนไทย
ความอ้วน ปัญหาเรื่องสุขภาพอันดับหนึ่งที่กลายเป็นเรื่องหนักใจของใครหลาย ๆ คน อาหารเพื่อสุขภาพ ความอ้วนนั้นเกิดขึ้นจากปัจจัยหลาย ๆอย่างรวมกัน บางคนก็อ้วนจากกรรมพันธุ์ บางคนก็อ้วนจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต บางคนก็อ้วนจากผลข้างเคียงการรักษาตัว บางคนก็อ้วนหลังคลอด
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ตาม บางคนก็กลายเป็นโรคอ้วนขึ้นมาแบบไม่ทันรู้ตัว โดยเกิดจากพฤติกรรมการกิน ดังนั้น การปรับพฤติกรรมโรคอ้วน หากต้องการที่จะแก้ไขปัญหาเรื่องของความอ้วนนั้น ก็ควรจะเริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินเสียใหม่ เพื่อทำให้สุขภาพของตัวเองนั้นดีขึ้น เพราะบางครั้งการเป็นคนอ้วน ก็จะทำให้พลาดโอกาสดี ๆต่าง ๆ ไป ได้เหมือนกัน
การปรับพฤติกรรมโรคอ้วน ควรรักษาสุขภาพให้ดีได้อย่างไร
การปรับพฤติกรรมโรคอ้วน พฤติกรรมแรกที่ต้องทำ ก็คือ เปลี่ยนพฤติกรรมการกิน คนอ้วนก็สามารถที่จะดูแลตัวเองให้มีสุขภาพของตัวเองให้ดีได้เหมือนกับคนปกติ เพียงแค่ต้องรู้จักดูแลตัวเองให้มากขึ้น หากเรารู้ตัวว่าไม่สามารถที่จะลดความอ้วนได้แบบทันที ก็สามารถค่อยเป็นค่อยไปได้ ค่อย ๆ ปรับพฤติกรรมการกินไปเรื่อย เช่น ลดการทานไขมันของผัดของทอด ลดการทานน้ำตาลขนมหวาน น้ำอัดลม เพิ่มเป็นโปรตีนแทนดีที่สุด
การปรับพฤติกรรมโรคอ้วน พฤติกรรมต่อมาที่ต้องทำ ก็คือ เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต เชื่อว่าหลายต่อหลายคนนั้น มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ ได้อย่างมากมาย อีกทั้งยังมีชั่วโมงเร่งด่วน เลยเปลี่ยนจากอาหารหลักเป็นอาหารฟาสฟู๊ด ตกเย็นเลิกงานมา ก็อาหารบุฟเฟ่ต์ ตามด้วยเหล่า เบียร์ และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยที่ไม่เคยได้ออกกำลังกายกันเลยแม้แต่น้อย สิ่งเหล่านี้ก็สามารถทำให้เราเกิดโรคอ้วนได้เหมือนกัน อีกทั้งมีเสี่ยงต่อโรคอื่น ๆได้อีกด้วย
การปรับพฤติกรรมโรคอ้วน พฤติกรรมสุดท้ายที่ต้องทำ ก็คือ ออกกำลังกายให้มากขึ้น เมื่อเราสามารถที่ปรับปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน และการใช้ชีวิตได้แล้ว ก็ควรที่จะหันมาสนใจเรื่องการออกกำลังกายบ้าง อย่างน้อยการเดินก็เป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่งที่คนอ้วนสามารถทำได้ การเดินรอบสวนสาธารณ วันละ 2 รอบนั้น ก็ถือเป็นการออกกำลังกายสำหรับคนอ้วนได้แล้ว
การรักษาสุขภาพของตัวเองให้ด้วยด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมนั้น การปรับพฤติกรรมโรคอ้วน สามารถทำได้กับทุกคนไม่ใช้เฉพาะสำหรับคนอ้วน อย่ารอให้อะไรมันสายเกินไป หากสามารถป้องกันได้ ก็ควรที่จะป้องกันไว้ก่อนดีกว่า เพราะบางทีเมื่อถึงเวลาเราก็จะไม่สามารถแก้ขมันได้ทัน