5 เทคนิค “กินเจ” อย่างไร? ให้ไม่ทรมานและไม่ทำร้ายตัวเอง
เนื่องจากในช่วงต้นเดือนตุลาคมของทุกปี เทศกาลที่สำคัญที่ได้รับความสนใจในวงกว้างนั้นก็คือ “เทศกาลการ กินเจ” โดยการรับประทานอาหารเจนั้นจะเป็นการงดเว้นเนื้อสัตว์ ทว่าก็มีสัตว์บางชนิดที่จัดให้เป็นอาหารเจนะคะ ซึ่งการรับประทานเจถือว่าเป็นการดูแลสุขภาพของตนเองและยังได้บุญอีกด้วย แต่อาหารเจมักจะมีรสชาติเค็มจัด หวานจัด มันจัดส่งผลให้โซเดียมในร่างกายของทุกคนที่รับประทานเจโดยที่ไม่คำนึงถึงข้อเสียดังกล่าวอาจจะเป็นการทำร้ายสุขภาพของตนเองก็เป็นได้ ดังนั้นบทความนี้จึงได้นำ 5 เทคนิคกินเจอย่างไร…? ไม่ให้ทำร้ายตัวเองมาบอกต่อกันดังนี้
เทคนิคการ “กินเจ” ให้ไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ
- ทำอาหารเจรับประทานเอง การลงมือทำอาหารรับประทานเองนั้น มีข้อดีมากมายโดยเฉพาะทุกคนสามารถที่จะคัดสรรเครื่องปรุงหรือเลือกที่จะลดโซเดียมหรือรสชาติให้พอดีกับทุก ๆ คนได้
- เลือกกินผลไม้ ด้วยความที่ของหวานเป็นสิ่งที่คู่กับคนไทยมาช้านาน หากต้องลดอาหารที่หวานไปเลย หลายคนคงมีอาการหงุดหงิดบ้าง ดังนั้นเสนอแนะให้ทุกคนเลือกทานผลไม้ที่ให้รสชาติหวานแทนการรับประทานอาหารรสหวานจัด ๆ นั้นเอง แต่การรับประทานผลไม้ก็ควรทานให้พอดีและพอเหมาะด้วยเช่นกัน
- เลือกรับประทานถั่ว ธัญพืชในยามว่าง การกินเจขนมว่างยอดฮิต! ต้องยกให้ถั่วและธัญพืชเลยทีเดียวเชียว เพราะนอกจากแก้หิวได้ในยามท้องว่างแล้วในถั่วและธัญพืชยังมีโปรตีนสูงช่วยส่งเสริมร่างกายของทุกคนให้แข็งแรงได้อีกทางด้วย
- เลี่ยงการทานเนื้อเทียมจากแป้ง อาหารที่เป็นเนื้อเทียมจากแป้งมักจะผ่านการปรุงรสชาติมาให้อร่อยอยู่แล้ว ทว่าภายใต้ความอร่อยทุกคนไม่สามารถทราบได้เลยว่าเครื่องปรุงรสที่เจ้าของผลิตภัณฑ์ใส่ลงไปนั้นมีส่วนผสมอย่างไร อันตราส่วนที่เท่าไหร่ หากงดได้ควรงดเพื่อความปลอดภัยของสุขภาพทุกคน
- เลี่ยงน้ำอัดลม น้ำอัดลมถือว่าเป็นอาหารที่คนกินเจดื่มได้ แต่ในน้ำอัดลมมีน้ำตาลมาก ส่งผลให้ร่างกายต้องรับน้ำตาลไปสะสมเป็นจำนวนมาก ดังนั้นควรเลี่ยงหรืองดการดื่มน้ำอัดลมถือว่าเป็นการเพิ่มอายุให้กับตนเองได้แน่นอน
ซึ่งทั้งหมดที่ได้บอกกล่าวมาไม่จำเป็นต้องคนรับประทานเจเท่านั้นที่ควรปฏิบัติ ทว่าทุกคนหากรักในสุขภาพที่ดีแนะนำเลยว่าควรเคร่งครัดในพฤติกรรมการกินให้มากนะคะ
ติดตามอาหารเพื่อสุขภาพและติดตามข่าวสุขภาพอื่นๆ เช่น เมื่อการ แปรงฟันหลังทานข้าว ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเสมอไป!