Bim Posted on 6:30 am

รู้หรือไม่? หึงหวง แบบไม่มีอะไรกัน สามารถมีผลทางจิตวิทยาได้นะ

หลายคนคงได้ยินคำว่า “ความสัมพันธ์ที่ไม่มีชื่อเรียก” กันแล้วใช่ไหม  แน่นอนว่ามีผลต่อทางจิตวิทยาอย่างมาก  เพราะเห็นมาหลายกระทู้มากเหลือเกินว่าคนที่ หึงหวง แต่ไม่มีความสัมพันธ์ที่ชัดเจน  จึงเป็นข้อถกเถียงกันมากในหลายกระทู้  ไม่ว่าจะกระทู้พันทิป  กระทู้จากเว็บเด็กดี  หรือกระทู้อื่นๆ ในโลกโซเชียลมีเดียที่ยังพูดถึงการหึงหวงในรูปแบบนี้อยู่มากมาย  บทความนี้เราจะมาไขข้อข้องใจของความสัมพันธ์ไม่ชัดเจนในทางจิตวิทยากันเถอะ

หึงหวง

หึงหวง แบบไม่มีอะไรกัน มีผลทางจิตวิทยาได้ยังไง

ความหึงหวงมาจากปฏิกิริยาทางอารมณ์ในเชิงลบในเชิงจิตวิทยา  จะเกิดขึ้นเมื่อรู้สึกถึงความไม่น่าไว้ใจ  การถูกคุกคาม  อาจเป็นได้ทั้งเกิดขึ้นกับตัวจริงๆ  คิดไปเอง  มโนไปเอง  กังวลแบบไม่มีสาเหตุ  หรืออีกนัยหนึ่งอาจจะกลัวความโป๊ะแตกที่เกิดกับตัวเอง  เรื่องของความหึงหวง  แต่ไม่ได้เป็นอะไรกัน  ปัจจัยแรกมาจากทฤษฎีจิตวิทยาความหึงหวงตามปกติทั่วๆ ไปของมนุษย์นี่แหล่ะ  ซึ่งแบ่งได้ตามลักษณะการหึงหวงตามทฤษฎีสามเหลี่ยมความรักได้สามลักษณะ เช่น  ความสนิทสนม  ความใคร่หลง  และความผูกพัน  ซึ่งทฤษฎีนี้ไม่มีสูตรสำเร็จ  เพราะปกติของมนุษย์ไม่ได้ให้ความสำคัญสามส่วนนี้เท่ากัน  ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ว่ามีบทบาทต่อส่วนไหน  และทำให้ใส่ใจส่วนใดส่วนหนึ่งมากกว่ากัน  ซึ่งทฤษฎีจิตวิทยาสามเหลี่ยมความรักนี้ก็ยังมีผลในเรื่องของนิยาม รัก-ใคร่-หลง  ทนเพราะรักหรือทนเพราะฝืน  และ  Sex-Love เช่นกัน  ความหึงหวงก็แบ่งออกได้อีก 3 แบบ  เช่น  หึงหวงแบบตอบสนองต่อสิ่งเร้าหรือสิ่งกระตุ้น  ความหึงหวงแบบป้องกัน  และความหึงหวงแบบวิตกกังวล

หึงหวง

แต่อย่าลืมว่าในทางจิตวิทยา  เราไม่สามารถปฏิเสธค่านิยมที่เปลี่ยนไปของสังคมได้เลย  สิ่งเหล่านี้ยังเป็นสิ่งที่เป็นเส้นกั้น  ทำให้มีจำนวนไม่น้อยที่ยังต้องแอบซ่อนไว้ข้างในไม่ให้ใครรู้หรือแสดงออกไม่ได้เต็มที่  หรือไม่ก็ถ้าคนใดคนหนึ่งรู้ความในใจจะเกิดข้อถกเถียงในทางลบมากกว่า  เลยเก็บไว้ข้างในจะดีกว่าเปิดเผยให้ใครรู้  เช่น  สงครามประสาทกับอีกฝ่าย  หึงคนที่เป็นคนรักของเธอแต่ฉันได้แค่มอง  เรียกร้องความสนใจแต่ทำได้แค่ทำ  อยากจะแย่งแต่กลัวคำสาปส่ง  หรือแช่งให้เลิกกันไวๆ เผื่อเธอจะได้หันมามองฉันบ้าง  ฯลฯ  นั่นเองก็เกิดจากคำว่าหึงหวงอยู่ดี  คนที่มีความหึงหวงแต่ไม่เป็นอะไรกันเลย  มีผลในทางจิตวิทยาทุกข้อ  แต่ขึ้นอยู่กับบริบทของสถานการณ์ที่ประสบมากับตัวนั่นเอง

เมื่อได้รู้ความเข้าใจของเหตุและผลของการหึงหวงในรูปแบบนี้ทางจิตวิทยาแล้ว  อย่าลืมอีกข้อที่สำคัญนั่นก็คือ  คุณต้องแยกแยะให้ออกว่าความสัมพันธ์  ณ  ตรงนี้มันคือความรักที่คุณอยากให้เขา  อยากได้จากเขา  หรือคุณกำลังหลอกตัวเองอยู่หรือเปล่า  ถ้าหากกำลังหลอกตัวเองอยู่นั้น  นั่นไม่ใช่ความรัก  แต่มันคือความต้องการที่อ้างว่าความรักอยู่หรือเปล่า  อันนี้อยากให้วิเคราะห์ดีๆ นะคะ

ติดตามข่าวสุขภาพและติดตามข่าวสุขภาพอื่นๆ เช่น อาหารสำหรับผู้ป่วย “ไขมันในเลือดสูง” เลือกทานดีมีประโยชน์แน่นอน