Bim Posted on 6:30 am

เราไม่ควรรับประทาน อาหารกลางวัน ในช่วงเวลาแบบไหนกันนะ

สำหรับอาหารทุกมื้อแล้ว ทุกมื้อถือเป็นมื้อที่สำคัญ ดังนั้นการกินอาหารให้ครบทุกมื้อถือเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินชีวิตที่จะทำให้เรามีแรงในการทำงานหรือทำกิจกรรมต่างๆในแต่ละวันแถมยังทำให้ร่างกายเราแข็งแรงด้วยถ้าเรากินอาหารครบ 5 หมู่เป็นประจำ  ถึงแม้ทุกคนจะกินอาหารเป็นประจำและกินทุกมื้อก็ตามแต่การที่เรารับประทานอาหารผิดเวลาก็จะทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายเช่นเดียวกัน ในมื้อกลางวันเป็นอาหารที่จะช่วยให้เรามีแรงในการทำงานในช่วงบ่ายต่อไปแต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น การรับประทาน อาหารกลางวัน เกินเวลาก็จะทำให้ร่างกายทำงานผิดปกติโดยเฉพาะถ้าเรากินหลังเวลา 13:00 น  

อาหารกลางวัน ควรทานเวลาไหน

อาหารกลางวัน

ในช่วงเวลา 13:00 น ถึง 15:00 น  เป็นเวลาที่ลำไส้เล็กจะดูดซึมสารอาหารส่งไปให้ม้ามและม้ามจะลำเลียงสารอาหารไปยังปอดและหัวใจเพื่อให้อวัยวะดังกล่าวนั้นลำเลียงสารอาหารต่าง ๆ ไปเลี้ยงทุกส่วนของร่างกาย และส่วนของกากอาหารก็จะถูกส่งต่อไปที่ลำไส้ใหญ่และขับถ่ายออกมา ดังนั้นในช่วงเวลาดังกล่าวนั้นลำไส้เล็กจะทำงานให้ดีที่สุดและเป็นช่วงเวลาของการย่อยและการดูดซึมสารอาหาร การที่เรารับประทานอาหารกลางวันในช่วงเวลา 13:00 น ถึง  15:00 น  ก็จะทำให้อาหารนั้นถูกย่อยไม่ทันที่จะดูดซึมไปใช้เพื่อที่จะนำสารอาหารไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งอาจจะไม่ทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายมากนักแต่จะทำให้ร่างกายนั้นไม่มีแรงที่จะทำงานหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ เนื่องจากแม้ได้รับสารอาหารที่เพียงพอในขณะที่ลำไส้นั้นทำงานได้ดีที่สุดนั่นเอง 

อาหารกลางวัน

ถ้าหากเรารู้เช่นนี้แล้วการรับประทานอาหารเช้าก็เป็นสิ่งจำเป็นต่อการที่จะทำให้สารอาหารไปเลี้ยงสมองและจะทำให้เรามีความคิดและประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีมากที่สุด ดังนั้นอาหารมื้อเช้าจึงจำเป็นต่อร่างกายมากที่สุด ในส่วนของเวลาที่รับประทานอาหารกลางวันนั้นก็ควรมีเวลาที่เจาะจงในการรับประทานอาหารเช่นเดียวกัน เพราะถ้าหากเรารับประทานอาหารกลางวันหลังจากเวลา 13:00 น ที่เป็นเวลาของการย่อยและการดูดซึม อาหารก็จะถูกย่อยและดูดซึมได้ไม่ดีเท่าที่ควร ดังนั้นเราก็ควรที่จะกำหนดเวลาในการรับประทานอาหารกลางวันนะครับเพื่อที่จะให้มีแรงในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ต่อในช่วงบ่ายและไม่รบกวนต่อระบบย่อยอาหารจนมากเกินไป 

ติดตามข่าวสุขภาพและติดตามข่าวสุขภาพอื่นๆ เช่น ธาราบำบัด หรือการออกกำลังกายในน้ำ สามารถรักษาโรคได้อย่างไร