รู้หรือไม่! หากคุณเป็น โรคหอบหืด ก็สามารถออกกำลังกายได้
โรคหอบหืด เป็นโรคที่เกิดจากระบบหายใจที่มีความไวเกินของหลอดลม (Trachea) ในการตอบสนองต่อสารภูมิแพ้และอื่นๆ แต่ในขณะเดียวกันโรคหอบหืดจะมีอาการหายใจลำบาก แน่นหน้าอก ไอ หายใจลำบาก มีเสียงดังหวีดๆ ฮืดๆ อาการจะเป็นบ่อยที่สุดในตอนกลางคืนและช่วงเช้ามืด บางคนอาจจะเป็นแบบตลอดทั้งวัน จะมากหรือจะน้อยขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค เนื่องจากหลอดลมตีบ และการอุดกลั้นของหลอดลม
วิธีการออกกำลังกายในผู้ที่เป็น โรคหอบหืด
วิธีการออกกำลังกายในผู้ที่เป็นโรคหอบหืด จะมีสิ่งที่ควรคำนึงในการวางแผนการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดี และลดอัตราเสี่ยงให้อาการบรรเทาลง ดังนี้
- ออกกำลังกายในที่ชื้น เย็น แห้ง มักจะเกิดในช่วงเวลาเช้าและเย็น รวมถึงในฤดูฝน ซึ่งจะทำให้ผู้ที่เป็นโรคหอบหืดอาการรุนแรงขึ้น การทำงานของหลอดลมจะหนักขึ้นเนื่องจากความชื้นในหลอดลมเพิ่มขึ้น
- การแนะนำหลักการ FITT ในการออกกำลังกายในผู้ที่เป็นโรคหอบหืด จะแบ่งวิธีการได้ดังนี้
- F : Frequency ควรออกกำลังกายอย่างต่ำ 3-4 วันต่อสัปดาห์ และเต็มที่จริงๆ เอาแค่ 5 วันต่อสัปดาห์ แต่ทั้งนี้เขาต้องมียาป้องกันติดตัวมาด้วยเพื่อความปลอดภัย ส่วนในเวทเทรนนิ่ง ในผู้ที่เป็นโรคหอบหืดทำแค่อย่างต่ำ 2 วันต่อสัปดาห์
- I : Intensity ในแบบเวทเทรนนิ่ง ใช้ความหนักปานกลาง จะยกน้ำหนักแค่ 10-15 ครั้งต่อเซต ส่วนแบบแอโรบิกการใช้ความหนักในการออกกำลังกายสำหรับผู้ที่เป็นโรคหอบหืด ให้ใช้ความหนักแบบ Moderate หรือออกกำลังกายระดับปานกลาง สังเกตอาการของผู้ที่เข้ารับการออกกำลังกายด้วยวิธี Talk Test หรือทดสอบจากการพูดคุย สนทนากันเข้ามาเกี่ยวเพื่อสังเกตความเหนื่อยในแต่ละโหลดของโปรแกรม ว่าหนักไหม การพูดคุยกันแสดงความผิดปกติไหม
- T : Time ในเวทเทรนนิ่งตามกำลังที่ไหว ในจำนวนที่ทำได้ ส่วนในแบบแอโรบิกระยะเวลาสัก 30-60 นาทีต่อวันกำลังดี และมีเวลาพักระหว่างเซตสัก 10 นาทีเพื่อให้เขาได้ปรับการหายใจให้ทัน พอรู้สึกดีขึ้นค่อยทำต่อ
- T : Type ชนิดออกกำลังกายในกรณีที่เป็นแอโรบิก ผู้ที่เป็นโรคหอบหืดอยากให้เน้นที่ความไหวเป็นหลัก เช่น เดินเร็ว ปั่นจักรยานแบบชิวๆ แต่ไม่แนะนำให้ว่ายน้ำเพราะความชื้นสูง และเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต ส่วนในเวทเทรนนิ่งเน้นออกกำลังกายมัดใหญ่ เช่น กล้ามเนื้อส่วน Quadriceps, Gastrocsoleus, Triceps Brachii, Rhomboid, Deltoid, Pectoralis และ Biceps Brachii เพื่อทำให้กล้ามเนื้อมัดเล็กที่ติดกับมัดใหญ่ได้ทำงานเชื่อมโยงกัน
จริงๆ แล้วคนที่เป็นโรคหอบหืดสามารถออกกำลังกายได้ตามปกติ แต่ต้องสังเกตอาการของตนเอง หรือผู้ที่ออกกำลังกายว่าสภาพแวดล้อมที่ออกกำลังกายมีความเสี่ยงแค่ไหน เช่น อยู่ในที่แออัด มีฝุ่น ควันบุหรี่ หรือมีเกสรดอกไม้ฟุ้งหรือไม่ หากผู้ที่ออกกำลังกายได้รับยาป้องกันเพียงพอได้มากน้อยแค่ไหน ได้รับคำปรึกษาจากแพทย์อย่างใกล้ชิด และในเวลาทำโปรแกรมใดๆ ห้ามกลั้นหายใจโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะการออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง หรือแบบแรงต้าน (Resistance Training) จะสามารถป้องกันภาวะเสี่ยงของโรคหอบหืดได้อีกระดับด้วย
อย่าลืมติดตามข่าวสุขภาพ และ“สิวอักเสบ” มันเกิดจากอะไร? พร้อมวิธีรักษาที่ได้ผลจริง!